ร่างกายมนุษย์ควรหลับในห้องนอนที่มี อุณหภูมิ กี่องศา ถึงจะเหมาะสม ?

How-many-degrees-of-temperature-should-the-human-body-sleep-in-bedroom-to-be-suitable

ร่างกายมนุษย์ควรหลับในห้องนอนที่มี อุณหภูมิ กี่องศา ถึงจะเหมาะสม ?

เคยไหม? นอนหลับไม่สนิท ตื่นมาแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย เหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน สาเหตุหนึ่งอาจมาจาก “อุณหภูมิห้องนอน” ที่ไม่เหมาะสม รู้หรือไม่ว่า อุณหภูมิที่เย็นหรือร้อนเกินไป ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับของเรา แล้วอุณหภูมิห้องนอนแบบไหนที่ “เหมาะสม” กับการนอนหลับ? บทความนี้ จะพาคุณไปไขข้อสงสัย พร้อมบอกเทคนิคการปรับอุณหภูมิห้องนอน ให้คุณนอนหลับสบาย ตื่นมาสดชื่น เปี่ยมพลัง พร้อมลุยทุกกิจกรรม

️ อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการนอนหลับ

ร่างกายมนุษย์เปรียบได้กับเครื่องยนต์ที่ต้องการเวลาหยุดพักเพื่อฟื้นฟูพลังงาน โดยการนอนหลับคือกระบวนการชาร์จแบตเตอรี่ให้แก่ร่างกาย เมื่อเราไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ สิ่งนี้จะกระทบต่อสุขภาพทางกายและจิตอย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการนอนหลับอย่างมีคุณภาพคือ “อุณหภูมิในห้องนอน” การศึกษาจาก National Sleep Foundation ระบุว่า อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับห้องนอนควรจะอยู่ในช่วง 17 ถึง 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในช่วงดังกล่าวสามารถช่วยให้ร่างกายได้รับการผ่อนคลายสูงสุด ลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งนำไปสู่การนอนหลับที่สบายและตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกสดชื่นในตอนเช้า

ผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับอุณหภูมิห้องนอนให้เหมาะสม

  1. นอนหลับสบาย: ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย กล้ามเนื้อไม่ตึงเครียด หลับสนิท ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่น
  2. สุขภาพดี: ภูมิคุ้มกันดี ต้านทานโรค ป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง
  3. อารมณ์ดี: รู้สึกสดชื่น แจ่มใส อารมณ์แจ่มใส
  4. มีสมาธิ: สมองทำงานมีประสิทธิภาพ
  5. ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ: มีสมาธิ จดจ่อกับงาน
  6. เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน: จดจำบทเรียนได้ดี

️ผลกระทบของอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไป

อุณหภูมิห้องนอนที่ร้อนหรือเย็นเกินไป ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ และส่งผลต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ มาดูกันว่า อุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไป ส่งผลอย่างไรต่อร่างกายของเรา

อุณหภูมิที่ร้อนเกินไป:

  • ร่างกายสูญเสียความชื้น: ทำให้รู้สึกกระหายน้ำ รู้สึกไม่สบายตัว
  • เหงื่อออก: ทำให้นอนไม่สบาย เกิดอาการกระสับกระส่าย ตื่นกลางดึก
  • กล้ามเนื้อหดเกร็ง: ทำให้นอนไม่สบาย เกิดอาการปวดเมื่อย
  • หัวใจเต้นเร็ว: ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต
  • นอนหลับไม่สนิท: ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ตื่นมาแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย

อุณหภูมิที่เย็นเกินไป:

  • ร่างกายสั่น: ทำให้นอนไม่สบาย เกิดอาการหนาวสั่น
  • กล้ามเนื้อหดเกร็ง: ทำให้นอนไม่สบาย เกิดอาการปวดเมื่อย
  • หลอดเลือดหดตัว: ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต
  • หายใจลำบาก: ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ
  • นอนหลับไม่สนิท: ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ตื่นมาแล้วรู้สึกอ่อนเพลีย

ผลกระทบต่อสุขภาพ:

  • อ่อนเพลีย: รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง
  • อารมณ์แปรปรวน: หงุดหงิดง่าย ควบคุมอารมณ์ได้ยาก
  • ภูมิคุ้มกันต่ำ: ป่วยง่าย ร่างกายอ่อนแอ
  • ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง: ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
  • ระบบไหลเวียนโลหิต: อุณหภูมิห้องนอนที่ร้อนหรือเย็นเกินไป ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต
  • ระบบฮอร์โมน: การนอนหลับไม่เพียงพอ ส่งผลต่อระบบฮอร์โมน ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น อ้วนง่าย หงุดหงิดง่าย
  • อารมณ์: การนอนหลับไม่เพียงพอ ส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้หงุดหงิดง่าย ควบคุมอารมณ์ได้ยาก
  • ความจำ: การนอนหลับไม่เพียงพอ ส่งผลต่อความจำ ทำให้จดจำอะไรได้ยาก
  • สมาธิ: การนอนหลับไม่เพียงพอ ส่งผลต่อสมาธิ ทำให้ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
  • โรคเรื้อรัง: เสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง

เทคนิคการปรับอุณหภูมิห้องนอนให้เหมาะแก่การนอนหลับ

การนอนหลับที่ดี ส่งผลต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การปรับอุณหภูมิห้องนอนให้เหมาะสม เป็นหนึ่งในวิธีสำคัญ ที่ช่วยให้นอนหลับสบาย ตื่นมาสดชื่น

  1. การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ: วิธีที่สะดวกและง่ายที่สุด ในการปรับอุณหภูมิห้องนอน คือการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แนะนำให้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีระบบ Inverter ช่วยให้ประหยัดพลังงาน ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ และทำงานเงียบ ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 17 – 25 องศาเซลเซียส
  2. การเปิดหน้าต่าง: การเปิดหน้าต่าง ช่วยให้อากาศถ่ายเท ระบายความร้อน เหมาะสำหรับช่วงที่มีอากาศเย็นสบาย แต่ควรระวังเรื่องยุงและแมลง
  3. การใช้พัดลม: การใช้พัดลม ช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย เหมาะสำหรับช่วงที่มีอากาศร้อน แต่ควรเลือกพัดลมที่มีเสียงรบกวนน้อย
  4. การเลือกผ้าปูที่นอน: การเลือกผ้าปูที่นอน ควรเลือกผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศ ผ้าปูที่นอนที่ระบายอากาศได้ดี ช่วยให้นอนหลับสบาย ไม่ร้อน
  5. การอาบน้ำอุ่นก่อนนอน: การอาบน้ำอุ่นก่อนนอน ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย กล้ามเนื้อคลายตัว ช่วยให้นอนหลับสบาย
  6. การหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลต่อระบบการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ทำให้นอนหลับไม่สบาย ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน
  7. ใช้ผ้าห่ม: เลือกผ้าห่มที่มีความหนาบางให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ผ้าห่มที่หนาเกินไป อาจทำให้รู้สึกอึดอัด ผ้าห่มที่บางเกินไป อาจทำให้รู้สึกหนาว

เทคนิคเพิ่มเติม

  1. ใช้หมอน: เลือกหมอนที่มีความสูงต่ำให้เหมาะกับท่านอน หมอนที่สูงเกินไป อาจทำให้รู้สึกปวดคอ หมอนที่ต่ำเกินไป อาจทำให้รู้สึกปวดเมื่อย
  2. สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย: ปิดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ก่อนนอน
  3. ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย: ฝึกหายใจเข้าลึกๆ ฝึกโยคะ หรือฟังเพลงบรรเลงก่อนนอน
  4. การดื่มน้ำ: การดื่มน้ำ ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ควรดื่มน้ำก่อนนอน ประมาณ 1 แก้ว

สรุป

การนอนหลับที่มีคุณภาพ ส่งผลต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ปรับอุณหภูมิห้องนอนให้เหมาะสม เพียงเท่านี้ คุณก็จะนอนหลับสบาย ตื่นมาสดชื่น เปี่ยมพลัง พร้อมลุยทุกกิจกรรม

ติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องนอนของคุณดู แล้วสัมผัสความเปลี่ยนแปลง !!

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติ่มเกี่ยงกับการใช้แอร์ สามารถติดต่อได้ที่ ร้านวัฒนาแอร์ 

พิกัด : กดเพื่อดูแผนที่

ที่อยู่ร้าน : 338/28 ซอยลาดพร้าว87 ถนนลาดพร้าว, Bangkok, Thailand, Bangkok

เวลาทำการ : จันทร์-เสาร์ เวลา 08:00 – 18:00 น.

Facebook : วัฒนาแอร์ แอร์บ้านราคาถูกที่สุด ล้าง ซ่อม ย้าย

เบอร์โทร : 084 139 5238