แอร์อินเวอร์เตอร์ควรเปิดกี่องศาให้ประหยัดไฟที่สุด? เพราะแม้ว่าเราจะลงทุนซื้อแอร์อินเวอร์เตอร์ที่เน้นประหยัดพลังงาน แต่ถ้าใช้งานไม่ถูกวิธี ค่าไฟก็อาจพุ่งสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับการตั้งค่าอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับแอร์อินเวอร์เตอร์ เพื่อให้ได้ความเย็นสบายในระดับที่พอดี ขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดค่าไฟได้อย่างน่าทึ่ง พร้อมแล้วหรือยัง? มาเจาะลึกกันเลยดีกว่า!
ทำความรู้จักกับแอร์อินเวอร์เตอร์และการทำงานแบบประหยัดพลังงาน
ก่อนจะเข้าเรื่องอุณหภูมิ เรามาทำความเข้าใจก่อนว่าแอร์อินเวอร์เตอร์ประหยัดพลังงานได้อย่างไร แอร์อินเวอร์เตอร์ถูกออกแบบให้ควบคุมความเร็วของคอมเพรสเซอร์ได้อย่างแม่นยำ ต่างจากแอร์ธรรมดาที่ทำงานแบบเปิด-ปิดเท่านั้น
เมื่อเราเปิดแอร์อินเวอร์เตอร์ คอมเพรสเซอร์จะทำงานเต็มพิกัดในช่วงแรกเพื่อลดอุณหภูมิห้องให้ถึงค่าที่ตั้งไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจะปรับลดกำลังลงเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่ ซึ่งวิธีนี้ทำให้ประหยัดไฟมากกว่าการเปิด-ปิดคอมเพรสเซอร์ไปมาของแอร์ธรรมดา
นึกภาพง่ายๆ เหมือนการขับรถ แอร์ธรรมดาเหมือนการเหยียบคันเร่งสุดแล้วปล่อย สลับไปมา ส่วนแอร์อินเวอร์เตอร์เหมือนการรักษาความเร็วให้คงที่ ซึ่งแน่นอนว่าประหยัดน้ำมันกว่า
องศาทองคำ: อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแอร์อินเวอร์เตอร์
มาถึงคำถามสำคัญของเราแล้ว แอร์อินเวอร์เตอร์ควรเปิดกี่องศาให้ประหยัดไฟที่สุด? คำตอบคือ 25-26 องศาเซลเซียส
จากการศึกษาและข้อมูลจากผู้ผลิตแอร์ชั้นนำ พบว่าการตั้งอุณหภูมิที่ 25-26 องศาเซลเซียสเป็นจุดสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างความเย็นสบายและการประหยัดพลังงาน การตั้งอุณหภูมิสูงขึ้นทุก 1 องศาจาก 25 องศา จะช่วยประหยัดพลังงานได้ประมาณ 3-5% แต่ถ้าตั้งสูงเกินไป (เช่น 28 องศาขึ้นไป) อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวในวันที่อากาศร้อนจัด
ในทางกลับกัน หากตั้งอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา เช่น 23 หรือ 22 องศา แอร์จะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่าสภาพแวดล้อมมาก ส่งผลให้กินไฟมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การตั้งอุณหภูมิที่ 22 องศาอาจทำให้ใช้พลังงานมากกว่าการตั้งที่ 25 องศาถึง 10-15% เลยทีเดียว!
ตัวอย่างเช่น หากค่าไฟของคุณจากการใช้แอร์อินเวอร์เตอร์ที่ 25 องศาอยู่ที่ 1,000 บาทต่อเดือน การลดอุณหภูมิลงเป็น 22 องศาอาจทำให้ค่าไฟพุ่งขึ้นเป็น 1,100-1,150 บาทต่อเดือน โดยไม่จำเป็น!
ปัจจัยที่มีผลต่อการตั้งค่าอุณหภูมิที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม “องศาทองคำ” ที่ 25-26 องศานี้อาจมีการปรับเปลี่ยนตามปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
- ขนาดของห้องและขนาดของเครื่องปรับอากาศ: ห้องขนาดใหญ่ที่ใช้แอร์ขนาดพอดีหรือเล็กเกินไป อาจต้องตั้งอุณหภูมิต่ำลงอีก 1-2 องศาในช่วงแรก เพื่อให้อุณหภูมิห้องลดลงได้เร็วขึ้น แล้วค่อยปรับเพิ่มเป็น 25-26 องศาเมื่ออุณหภูมิห้องลดลงแล้ว สำหรับห้องขนาดเล็กที่ติดแอร์ขนาดใหญ่เกินไป การตั้งอุณหภูมิที่ 26-27 องศาก็อาจเพียงพอ เพราะห้องจะเย็นลงได้เร็วและรักษาความเย็นได้ดี
- สภาพอากาศภายนอก: ในวันที่อากาศภายนอกร้อนจัด (เช่น 35-40 องศา) แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิ ดังนั้นอาจต้องยอมให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นเป็น 26-27 องศา เพื่อไม่ให้แอร์ทำงานหนักเกินไป ในทางกลับกัน ช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาวที่อากาศภายนอกเย็นกว่า (25-30 องศา) การตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศาจะทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักมาก และยังให้ความเย็นสบายอยู่
- กิจกรรมในห้องและจำนวนคน: กิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น การออกกำลังกาย ทำอาหาร หรือมีคนอยู่ในห้องหลายคน จะทำให้ห้องร้อนขึ้น: ในกรณีนี้ อาจต้องลดอุณหภูมิลงเป็น 24-25 องศาในช่วงที่มีกิจกรรมดังกล่าว แล้วค่อยปรับกลับเป็น 25-26 องศาเมื่อกลับสู่ภาวะปกติ
วิธีการใช้แอร์อินเวอร์เตอร์ให้ประหยัดไฟสูงสุด
นอกจากการตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมแล้ว ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่ช่วยให้ประหยัดไฟได้มากขึ้น:
1. ใช้โหมดประหยัดพลังงาน (ECO Mode)
แอร์อินเวอร์เตอร์รุ่นใหม่มักมีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกใช้ โหมดนี้จะปรับการทำงานของเครื่องให้ใช้พลังงานน้อยลง โดยยอมให้อุณหภูมิในห้องสูงกว่าที่ตั้งไว้เล็กน้อย (ประมาณ 1-2 องศา) ตัวอย่างเช่น หากตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศาและเปิดโหมด ECO อุณหภูมิในห้องอาจอยู่ที่ 26-27 องศา แต่เครื่องจะใช้พลังงานน้อยลงประมาณ 10-20%
2. ใช้พัดลมร่วมกับแอร์
การเปิดพัดลมตั้งโต๊ะหรือพัดลมเพดานร่วมกับแอร์จะช่วยกระจายความเย็นได้ดีขึ้น ทำให้รู้สึกเย็นสบายแม้จะตั้งอุณหภูมิสูงขึ้น พัดลมใช้ไฟน้อยกว่าแอร์มาก (ประมาณ 50-100 วัตต์ เทียบกับแอร์ที่ใช้ 500-1,500 วัตต์) การเปิดพัดลมและตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 26-27 องศา จะประหยัดไฟกว่าการเปิดแอร์ที่ 24 องศาโดยไม่มีพัดลมช่วย
3. ตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติ
หลายคนมีนิสัยเปิดแอร์แล้วหลับไป ทำให้เครื่องทำงานตลอดทั้งคืน ทั้งที่ช่วงดึกอากาศมักเย็นลงแล้ว
การตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติ (Timer Off) หลังจากใช้งาน 6-8 ชั่วโมง จะช่วยประหยัดไฟได้มาก โดยเฉพาะช่วงกลางดึกถึงเช้าที่อุณหภูมิภายนอกลดลง
4. บำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
แอร์ที่ไม่ได้รับการดูแลจะทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น แม้จะเป็นรุ่นอินเวอร์เตอร์ก็ตาม ควรทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศทุก 2 สัปดาห์ และล้างทำความสะอาดคอยล์เย็น/คอยล์ร้อนทุก 6 เดือน เพื่อให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ข้อเปรียบเทียบการใช้พลังงานที่อุณหภูมิต่างๆ
มาดูตัวเลขการใช้พลังงานเปรียบเทียบกันชัดๆ สำหรับแอร์อินเวอร์เตอร์ขนาด 12,000 BTU ในห้องขนาดมาตรฐาน:
- 22°C: ใช้พลังงานประมาณ 0.95-1.1 kW/ชั่วโมง
- 23°C: ใช้พลังงานประมาณ 0.9-1.0 kW/ชั่วโมง
- 24°C: ใช้พลังงานประมาณ 0.85-0.95 kW/ชั่วโมง
- 25°C: ใช้พลังงานประมาณ 0.8-0.9 kW/ชั่วโมง
- 26°C: ใช้พลังงานประมาณ 0.75-0.85 kW/ชั่วโมง
- 27°C: ใช้พลังงานประมาณ 0.7-0.8 kW/ชั่วโมง
- 28°C: ใช้พลังงานประมาณ 0.65-0.75 kW/ชั่วโมง
จากตัวเลขข้างต้น เห็นได้ชัดว่าการเพิ่มอุณหภูมิจาก 22°C เป็น 25°C สามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 15-20% และหากเพิ่มเป็น 27°C จะประหยัดได้ถึง 25-30%
หากคิดเป็นค่าไฟ (ประมาณ 4 บาทต่อหน่วย) และใช้แอร์วันละ 8 ชั่วโมง:
- เปิดที่ 22°C: ค่าไฟประมาณ 912-1,056 บาท/เดือน
- เปิดที่ 25°C: ค่าไฟประมาณ 768-864 บาท/เดือน
- เปิดที่ 27°C: ค่าไฟประมาณ 672-768 บาท/เดือน
นั่นหมายความว่า การเพิ่มอุณหภูมิจาก 22°C เป็น 25°C สามารถประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 150-200 บาทต่อเดือน หรือ 1,800-2,400 บาทต่อปี!
ร้านวัฒนาแอร์: ผู้เชี่ยวชาญด้านแอร์อินเวอร์เตอร์และการประหยัดพลังงาน
หากคุณยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้แอร์อินเวอร์เตอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟสูงสุด หรือต้องการคำแนะนำในการเลือกซื้อ ติดตั้ง หรือบำรุงรักษาแอร์ ร้านวัฒนาแอร์พร้อมให้บริการด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี
ติดต่อร้านวัฒนาแอร์ได้ที่ LINE ID: @wattanaair หรือโทร 084-139-5238 ให้เราช่วยคุณประหยัดทั้งค่าไฟและค่าซ่อมบำรุงในระยะยาว ด้วยบริการที่มีคุณภาพและราคายุติธรรม.