วิธีคำนวณค่าไฟแอร์บ้านอย่างง่าย! ที่ใครๆก็ทำได้ 2024
วันนี้เรามาคุยกันเรื่องสุดฮอตที่ทุกบ้านต้องเจอ นั่นก็คือเรื่องของค่าไฟแอร์นั่นเอง! ใครที่เคยเปิดบิลค่าไฟแล้วตกใจจนแทบช็อก บทความนี้มีคำตอบให้คุณแน่นอน เราทุกคนรู้ดีว่าแอร์เป็นเพื่อนคู่ใจในหน้าร้อนของเมืองไทย แต่บางทีมันก็เป็นเพื่อนที่กินจุเอาซะมากๆ ทำให้ค่าไฟพุ่งกระฉูดจนน่าตกใจ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะวันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีคำนวณค่าไฟแอร์แบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ แถมยังอัปเดตล่าสุดสำหรับปี 2024 อีกด้วย!
มาเริ่มกันเลยดีกว่า!
รู้จักกับ “วัตต์” แอร์บ้านของคุณกันก่อน
ก่อนที่เราจะไปคำนวณค่าไฟแอร์กัน เรามาทำความรู้จักกับ “วัตต์” ของแอร์บ้านกันก่อนดีกว่า
วัตต์ คือหน่วยวัดกำลังไฟฟ้าที่แอร์ของเราใช้นั่นเอง โดยทั่วไปแล้ว แอร์บ้านจะมีกำลังไฟฟ้าประมาณ 1,000 – 2,500 วัตต์ ขึ้นอยู่กับขนาดของแอร์
ตัวอย่างเช่น:
- แอร์ 9,000 BTU ใช้ไฟประมาณ 800 – 1,000 วัตต์
- แอร์ 12,000 BTU ใช้ไฟประมาณ 1,000 – 1,200 วัตต์
- แอร์ 18,000 BTU ใช้ไฟประมาณ 1,500 – 2,000 วัตต์
ทีนี้ลองไปดูสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่บนตัวแอร์ของคุณดูสิครับ คุณจะเห็นตัวเลขวัตต์อยู่บนนั้น จดเอาไว้นะครับ เดี๋ยวเราจะเอามาใช้คำนวณกัน!
มาทำความรู้จักกับ “หน่วย” ไฟฟ้ากันบ้าง
ทีนี้เรามารู้จักกับ “หน่วย” ไฟฟ้ากันบ้าง หน่วยไฟฟ้าที่เราเห็นในบิลค่าไฟนั้น จริงๆ แล้วก็คือ “กิโลวัตต์-ชั่วโมง” (kWh) นั่นเอง
1 กิโลวัตต์-ชั่วโมง = การใช้ไฟฟ้า 1,000 วัตต์ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
เช่น ถ้าคุณเปิดแอร์ขนาด 1,000 วัตต์ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง คุณก็จะใช้ไฟไป 1 หน่วยพอดี!
แต่ถ้าคุณเปิดแอร์ขนาด 2,000 วัตต์ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง คุณก็จะใช้ไฟไป 2 หน่วย
เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ? ทีนี้เรามาดูวิธีคำนวณกันเลย!
สูตรคำนวณค่าไฟแอร์แบบง่ายๆ
นี่คือสูตรง่ายๆ ในการคำนวณค่าไฟแอร์:
ค่าไฟแอร์ = (กำลังไฟของแอร์ (วัตต์) x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ต่อวัน x จำนวนวันที่ใช้ต่อเดือน x ค่าไฟต่อหน่วย) / 1000
ดูน่ากลัวไปหน่อยใช่ไหมครับ? ไม่ต้องกลัวครับ เดี๋ยวเราจะมาลองคำนวณกันทีละขั้นเลย!
มาลองคำนวณกันจริงๆ กันเถอะ!
สมมติว่าคุณมีแอร์ขนาด 12,000 BTU ซึ่งใช้ไฟประมาณ 1,200 วัตต์
คุณเปิดแอร์วันละ 8 ชั่วโมง ทุกวันตลอดเดือน (30 วัน)
และค่าไฟต่อหน่วยอยู่ที่ 4 บาท
มาคำนวณกันเลย:
- กำลังไฟของแอร์ = 1,200 วัตต์
- จำนวนชั่วโมงที่ใช้ต่อวัน = 8 ชั่วโมง
- จำนวนวันที่ใช้ต่อเดือน = 30 วัน
- ค่าไฟต่อหน่วย = 4 บาท
ใส่ตัวเลขลงในสูตร:
ค่าไฟแอร์ = (1,200 x 8 x 30 x 4) / 1000
= 1,152 บาท
นั่นหมายความว่า ค่าไฟแอร์ของคุณในเดือนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1,152 บาท
เห็นไหมครับว่าไม่ยากเลย? แค่นี้คุณก็สามารถประมาณค่าไฟแอร์ของคุณได้แล้ว!
เทคนิคประหยัดค่าไฟแอร์ที่ใครๆ ก็ทำได้
ทีนี้ที่เรารู้วิธีคำนวณค่าไฟแอร์แล้ว มาดูเทคนิคประหยัดค่าไฟแอร์กันบ้างดีกว่า:
ตั้งอุณหภูมิที่ 25-26 องศา
การตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 25-26 องศาเซลเซียสถือเป็นช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด นอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟแล้ว ยังเป็นอุณหภูมิที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ที่อุณหภูมินี้ ร่างกายไม่ต้องปรับตัวมากเกินไปเมื่อเข้าออกระหว่างพื้นที่ปรับอากาศและไม่ปรับอากาศ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นหวัดหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิ
ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน
การปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ได้ใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อออกจากห้องเป็นเวลานาน เป็นวิธีที่ง่ายแต่มีประสิทธิภาพมากในการประหยัดค่าไฟ แม้จะมีความเชื่อว่าการเปิดแอร์ทิ้งไว้จะประหยัดกว่าการเปิดปิดบ่อยๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งานจะประหยัดพลังงานมากกว่าอย่างชัดเจน
ทำความสะอาดแอร์สม่ำเสมอ
การบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ แอร์ที่สะอาดจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า ส่งผลให้ใช้พลังงานน้อยลง ควรทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างน้อยเดือนละครั้ง และทำความสะอาดครั้งใหญ่โดยช่างผู้เชี่ยวชาญปีละ 1-2 ครั้ง
ใช้ผ้าม่านหรือฟิล์มกรองแสง
การใช้ผ้าม่านหรือติดฟิล์มกรองแสงที่หน้าต่างเป็นวิธีที่ช่วยลดความร้อนที่เข้ามาในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อความร้อนจากภายนอกเข้ามาในห้องน้อยลง เครื่องปรับอากาศก็ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้อง ส่งผลให้ประหยัดพลังงานและค่าไฟได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันเฟอร์นิเจอร์และพื้นไม้จากการซีดจางเนื่องจากแสงแดดอีกด้วย
ทำตามเทคนิคเหล่านี้ รับรองว่าค่าไฟแอร์ของคุณจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ!
สรุป
สุดท้ายนี้ ถ้าคุณกำลังมองหาบริการติดตั้ง ซ่อมแซม หรือล้างแอร์ที่มีคุณภาพ ผมขอแนะนำร้านวัฒนาแอร์ครับ เขามีบริการครบวงจร ทั้งติดตั้ง ซ่อม และล้างแอร์ โดยทีมช่างมืออาชีพ รับรองว่าแอร์ของคุณจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดไฟสุดๆ แถมยังรับประกันงานอีกด้วย สนใจติดต่อได้เลยนะครับ!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องการคำนวณค่าไฟแอร์มากขึ้นนะครับ อย่าลืมนำไปใช้เพื่อประหยัดค่าไฟกันนะครับ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าครับ!