เตือน! แอร์สกปรก ภัยเงียบใกล้ตัว เสี่ยงปอดอักเสบ

หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า แอร์ที่เราใช้งานอยู่ทุกวันนี้ อาจเป็น “ภัยเงียบ” ที่คุกคามสุขภาพของเราและคนที่เรารักอยู่ก็ได้ โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องอยู่ในห้องแอร์กันแทบทั้งวัน ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน วันนี้เรามาทำความรู้จักกับอันตรายจากแอร์สกปรก และวิธีป้องกันกันดีกว่า!

แอร์สกปรกอันตรายแค่ไหน? ทำไมถึงเสี่ยงปอดอักเสบ

คงไม่มีใครอยากหายใจเอาฝุ่นละออง เชื้อรา และแบคทีเรียเข้าปอดแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ? นั่นแหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราใช้แอร์ที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดเป็นเวลานาน เพราะภายในเครื่องปรับอากาศนั้น มีความชื้นสูงและเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรกมากมาย ทั้งฝุ่น เชื้อรา แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ

เมื่อเปิดแอร์ สิ่งสกปรกเหล่านี้จะถูกพัดกระจายออกมาในอากาศที่เราหายใจ ซึ่งอาจนำไปสู่:

อาการภูมิแพ้ จาม คัดจมูก

เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ที่ลอยอยู่ในอากาศ ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองด้วยการหลั่งสารฮิสตามีน ทำให้เกิดอาการจาม น้ำมูกไหล คัดจมูก และไอ บางคนอาจมีอาการรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการเหล่านี้อาจเรื้อรังและทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจตามมาได้

ระคายเคืองตา คอ และผิวหนัง

ฝุ่นละอองและสารระคายเคืองที่ลอยอยู่ในอากาศสามารถก่อให้เกิดอาการระคายเคืองตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่สัมผัสโดยตรง เช่น ตาแดง น้ำตาไหล คอแห้ง ระคายคอ และผื่นคันตามผิวหนัง ซึ่งนอกจากจะสร้างความรำคาญแล้ว ยังอาจนำไปสู่การติดเชื้อหรือการอักเสบที่รุนแรงขึ้นได้ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

หอบหืด

สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด การสูดดมอากาศที่มีสิ่งปนเปื้อนจากเครื่องปรับอากาศที่สกปรกอาจกระตุ้นให้เกิดการกำเริบของโรคได้อย่างรุนแรง หลอดลมจะตีบตัวและมีการอักเสบ ทำให้หายใจลำบาก แน่นหน้าอก และไอมากขึ้น ในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลฉุกเฉิน

และที่อันตรายที่สุดคือ โรคปอดอักเสบ

อันตรายที่ร้ายแรงที่สุดจากการใช้เครื่องปรับอากาศที่สกปรกคือ โรคปอดอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อที่ปอด โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่เจริญเติบโตในความชื้นภายในเครื่องปรับอากาศ เมื่อเชื้อเหล่านี้เข้าสู่ปอด จะทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอด ส่งผลให้มีอาการไข้สูง ไอรุนแรง หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก และอ่อนเพลีย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

สัญญาณเตือนว่าแอร์ของคุณกำลังสกปรก

แอร์ที่สกปรกมักจะส่งสัญญาณบางอย่างให้เราสังเกตได้ เช่น:

  1. กลิ่นอับชื้นที่โชยออกมาเมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศเป็นสัญญาณชัดเจนว่ามีการสะสมของความชื้นและการเจริญเติบโตของเชื้อราภายในเครื่อง สาเหตุมักเกิดจากการที่น้ำควบแน่นไม่สามารถระบายออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการสะสมของความชื้นในถาดน้ำทิ้งหรือท่อระบายน้ำ สภาพแวดล้อมเช่นนี้เป็นแหล่งเพาะเชื้อราและแบคทีเรียชั้นดี ซึ่งไม่เพียงส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้งานอีกด้วย
  2. แอร์เย็นช้ากว่าปกติหรือความเย็นไม่สม่ำเสมอ นั่นหมายความว่าประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องลดลง สาเหตุหลักมาจากการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่แผ่นกรองอากาศและคอยล์เย็น ทำให้การไหลเวียนของอากาศไม่สะดวก ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนความร้อนเกิดขึ้นได้ไม่เต็มที่ นอกจากจะทำให้ห้องเย็นช้าแล้ว ยังทำให้เครื่องต้องทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าและอาจทำให้อายุการใช้งานของเครื่องสั้นลง
  3. หยดน้ำหรือคราบดำเกาะที่ช่องแอร์เป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม คราบดำที่เห็นนั้นมักเป็นเชื้อราที่เจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ชื้น ส่วนหยดน้ำที่เกาะตามช่องแอร์อาจเกิดจากการอุดตันของท่อระบายน้ำหรือถาดน้ำทิ้งที่สกปรก ทำให้น้ำควบแน่นไม่สามารถระบายออกได้ตามปกติ หากปล่อยไว้นาน นอกจากจะทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวเครื่องและผนังห้องแล้ว ยังเป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อโรคในอากาศอีกด้วย
  4. การสะสมของฝุ่นที่หน้ากากแอร์เป็นสัญญาณเตือนที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด เมื่อเห็นฝุ่นเกาะหนาที่หน้ากาก นั่นหมายความว่าแผ่นกรองอากาศด้านในก็น่าจะสกปรกยิ่งกว่า ฝุ่นที่สะสมนี้ไม่เพียงขัดขวางการไหลเวียนของอากาศ แต่ยังเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย ซึ่งเมื่อถูกเป่าออกมาพร้อมกับอากาศเย็น จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิแพ้หรือโรคระบบทางเดินหายใจ
  5. เสียงดังผิดปกติที่เกิดขึ้นขณะเครื่องทำงานเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรละเลย เสียงเหล่านี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ฝุ่นและสิ่งสกปรกที่สะสมในพัดลม ทำให้การหมุนไม่สมดุล หรือการอุดตันของท่อระบายน้ำที่ทำให้น้ำไหลย้อนกลับ นอกจากนี้ อาจเกิดจากชิ้นส่วนที่หลวมหรือสึกหรอเนื่องจากการสะสมของสิ่งสกปรกเป็นเวลานาน การปล่อยให้เครื่องทำงานในสภาพเช่นนี้นอกจากจะสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว ยังอาจนำไปสู่ความเสียหายที่รุนแรงและค่าซ่อมแซมที่สูงขึ้นในอนาคต

วิธีดูแลแอร์ให้สะอาด ห่างไกลโรค

การดูแลแอร์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ:

  • ทำความสะอาดหน้ากากแอร์และฟิลเตอร์ทุกเดือน
  • เปิดหน้าต่างระบายอากาศบ้างในแต่ละวัน
  • ไม่ควรเปิดแอร์ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ล้างแอร์ใหญ่อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง

ทำไมต้องเลือกช่างมืออาชีพในการล้างแอร์?

การล้างแอร์ไม่ใช่แค่การทำความสะอาดธรรมดา แต่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและเครื่องมือที่เหมาะสม ร้านวัฒนาแอร์ของเรามีประสบการณ์ดูแลเครื่องปรับอากาศมากว่า 30 ปี พร้อมทีมช่างมืออาชีพที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี

เรามีบริการครบวงจร:

  • ล้างแอร์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อคุณภาพสูง
  • ตรวจเช็คระบบการทำงาน
  • ซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่แท้
  • รับประกันผลงาน

สนใจบริการล้างแอร์คุณภาพ ติดต่อร้านวัฒนาแอร์ได้ที่ LINE: @wattanaair หรือโทร 084-139-5238 ให้เราช่วยดูแลสุขภาพของคุณและครอบครัวผ่านการดูแลแอร์อย่างมืออาชีพ รับประกันความสะอาด ปลอดภัย หายห่วง!